ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ข้อมูล
(Data) หมายถึง ข้อมูลดิบ หรือข้อเท็จจริงต่างๆ
ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อาจเป็นข้อมูลที่แทนด้วยสัญลักษณ์ต่างๆที่แทนปริมาณหรือการกระทำต่างๆซึ่งยังไม่ผ่านการกลั่นกรองหรือประมวลผล อาจอยู่ในรูปของตัวเลข ตัวอักษร ข้อความ ภาพ
และเสียง เป็นต้นคุณสมบัติของข้อมูลที่ดีจะต้องมีความถูกต้องเชื้อถือได้
ทันต่อความต้องการการใช้งาน ตรงตามความต้องการการใช้งาน มีปริมาณกะทัดรัด และสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้
เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล
องค์ประกอบขั้นพื้นฐานของระบบการสื่อสารข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
สามารถจำแนกได้ดังนี้
1.
ผู้ส่งสาร (Sender) หรือ แหล่งกำเนิดข่าวสาร (Source)
2.
ผู้รับสาร(Receiver) หรือ จุดหมายปลายทางข่าวสาร (Target)
3.
สาร (Message) ในปัจจุบันมักพบเห็นในรูปของสื่อประสม (Multimedia)
ที่อาจมีทั้งลักษณะที่เป็นข้อความตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว
4.
สื่อกลาง (Media)
5.
โปรโตคอล (Protocol) และ ซอฟต์แวร์ (Software) โปรโตคอล (Protocol) หมายถึง กฎระเบียบมาตรฐาน หรือข้อกำหนดขั้นตอน
ที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เพื่อให้ผู้รับและผู้ส่งสารกันได้เข้าใจ ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง โปรแกรมที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น โปรแกรมรับส่งอีเมล
การสื่อสารข้อมูลทางคอมพิวเตอร์
การสื่อสารข้อมูลทางคอมพิวเตอร์
หมายถึง การโอนถ่าย (Transmisson)
ข้อมูลหรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ส่งต้นทางกับผู้รับปลายทาง
ทั้งข้อมูลประเภท ข้อความ รูปภาพ เสียง หรือ ข้อมูลสื่อผสม
โดยผู้ส่งต้นทางส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์
ซึ่งมีหน้าที่แปลงข้อมูลเหล่านั้นให้อยู่ในรูปสัญญาณทางไฟฟ้า (Electronic
data) จากนั้นถึงส่งไปยังอุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์ปลายทาง
รวมทั้งระบบการสื่อสารแบบ
Video Conferencing System คือ
วิธีการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบของกลุ่มคนสามารถรวมประชุมพร้อมกัน
การประชุมทางไกล ทั้งภาพ เสียง และข้อมูล ในเวลาเดียวกัน
แต่อีกลักษณะหนึ่งที่อาศัยตัวนำสัญญาณด้วย
IP ที่จะดำเนินการส่งสัญญาณเสียงโทรศัพท์แพ็กเก็ต IP
ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งในปัจจุบันจะมีใช้งานอย่างแพร่หลาย เช่น
เมสเซนเจอร์ หรือ อินสแตนท์ เมสแซจจิง (Instant Messaging,IM)
และ VoIP หรือมักจะกล่าวถึงอีกวิธีในการสื่อสารที่เฉพาะการส่งข้อความที่ประหยัดและรวดเร็ว
คือระบบแบบ SMS
ตัวอย่างการสื่อสารข้อมูลทางคอมพิวเตอร์
-
Electronic Mail (E-mail) จดหมายอิเลคทรอนิกส์ที่ใช้สำหรับส่งกันโดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้ติดต่อสื่อสารได้ทั้งภายใน
และภายนอกองค์กร การใช้งานก็เหมือนกับพิมพ์ข้อความในโปรแกรม word จากนั้นก็คลิกส่ง (Send)
เพื่อส่งออกไปโดยจะมีชื่อของผู้รับปลายทาง ซึ่งเรียกว่า Email Address เป็นหลักในการรับส่ง
-
Instant Messages เรียกย่อว่า “IMing” เป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อความผ่านโปรแกรมประยุกต์ซอฟแวร์ในเวลาจริงสามารถโต้ตอบได้ทันที
-
Text Messages ข้อความ ถ้อยคำที่ส่งถึงบุคคลอื่น
-
VoIP เป็นการสื่อสารที่อาศัยตัวนำสัญญาด้วย IP ที่จะดำเนินการส่งสัญญาณเสียงโทรศัพท์เป็นแพ็กเก็ต IP ผ่านอินเทอร์เน็ต Online Conferencing
-
Chat Room ห้องสนทนาคือ การสนทนาแบบออนไลน์
ที่มีการส่งข้อความโต้ตอบกัน
แลกเปลี่ยนความคิดได้อย่างรวดเร็วถึงแม้ไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกัน
โดยวิธีการสนทนาจะต้องเข้าไปในเว็บไซต์ที่ให้บริการห้องสนทนาเช่น www.sanook.com,www.pantip.com
สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนได้
-
Social Networking Sites (SNS) คือเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผ่าน
Internet ซึ่งเป็นเว็บไซต์ช่วยให้เพื่อนบนโลกอินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆสามารถสร้างพื้นที่ส่วนตังขึ้นมา
เพื่อติดต่อเพื่อนหรือแนะนำเพื่อน ตัวอย่างเว็บไซต์เช่น Facebook,Hi5,Twiter
-
Blogs บล็อก (Blog) หรือ
เว็บบล็อก (Weblog)
เป็นเว็บไซต์ส่วนตัวสำหรับเขียนบันทึกเล่าเรื่องราวประจำ เพื่อสื่อสารความรู้สำนึกคิด
มุมมอง ประสบการณ์ ความรู้ และข่าวสารแลกเปลี่ยนความคิด
-
Message Boards or Newsgroups คล้ายกับการลงรายการบัญชีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อ
แต่ะต้องสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มข่าวสารกระดานข่าวสาร
ชนิดของสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์
1.
สัญญาณแบบอนาล็อก (Analog
signal) จะเป็นสัญญาณแบบต่อเนื่องที่ทุกๆค่าที่เปลี่ยนแปลงไป
ของระดับสัญญาณจะมีความหมาย เช่น สัญญาณเสียงในสายโทรศัพท์ เป็นต้น
2.
สัญญาณแบบดิจิทัล (Digital
Signal) จะประกอบขึ้นจากระดับสัญญาณพียง 2 ค่า
คือ สัญญาณ ระดับสูงสุด และสัญญาณระคับต่ำสุด
ดังนั้นจะมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูงกว่าแบบอนาล็อก เนื่องจากมีการใช้งานค่าสองค่า
เพื่อนำมาตีความหมายเป็น on/off หรือ 0/1 เท่านั้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่คอมพิวเตอร์ใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน
คุณสมบัติของการสื่อสารข้อมูล
1.
การส่งมอบ (Delivery)
2.
ความถูกต้องแน่นอน (Accuracy)
3.
ระยะเวลาในการส่งที่เหมาะสม (Timeliness)
สื่อกลางในการส่ง
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1.
สื่อกลางแบบมีสาย (Guide
Media)
เป็นสื่อซึ่งอาศัยวัสดุที่จับต้องได้เป็นตัวส่งผ่านสัญญาณ เช่น
สายทองแดง สายคู่ ตีเกลียว (Twisted Pair)
1.1. Twisted
Pair (สายคู่ตีเกลียว)
1.2. ใยแก้วนำแสง
(Fiber-Optic)
ลักษณะใยแก้วนำแสงจะส่งสัญญาณแสงวิ่งผ่านท่อแก้วหรือท่อพลาสติกเล็กๆซึ่งท่อแก้วนี้ถูกหุ้มด้วยเจล
หรือ พลาสติก เพื่อป้องกันความเสียหายและการสูญเสียของสัญญาณ
มีข้อดีตรงที่ส่งสัญญาณได้ระยะไกลไม่มีสัญญาณรบกวน
2.
สายกลางแบบไร้สาย (Unguided
media)
เป็นสื่อกลางประเภทที่ไม่ใช้วัสดุใดๆในการนำสัญญาณ
ซึ่งจะไม่มีการกำหนดเส้นทางให้สัญญาณเดินทาง เช่น คลื่นไมโครเวฟ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ระบบดาวเทียม
การใช้ซอฟต์แวร์การสื่อสารข้อมูล (Electronic
Communication)
โดยทั่วไปการส่งข้อความจากหนึ่งคนหรือมากกว่าหนึ่งคนนั้นส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์
แต่ยุคปัจจุบันต้องการหาซอฟต์แวร์แทนการใช้โทรศัพท์และพยายามที่จะติดต่อกันด้วยการพิมพ์สำเนาของการสนทนาเป็นบันทึกของการสื่อสาร
และสามารถแบ่งปันข้อมูลโดยการส่งไฟล์หรือแนบไฟล์ไปกับอีเมล
และข้อความสามารถโต้ตอบแบบทันทีหรือผ่านทางออนไลน์ รวมทั้งคุฯลักษณะอื่น เช่น
สามารถโพสไฟล์ดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บไซต์ สามารถเข้าถึงอีเมล
และเว็บไซต์อินทราเน็ตของ บริษัทจากตำแหน่งใดๆ ก็ได้
ประโยชน์การส่งข้อความอิเล็กทรอนิกส์ เช่น
การประชุมหรือแจ้งคนอื่นๆเกี่ยวกับเนื้อหา หัวข้อการประชุม
ข้อเสีย
1.
จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอาจสูง แต่ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาไม่แพงมาก
และไม่คำนึงวิธีการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์
2.
จำเป็นต้องมีเซิร์ฟเวอร์ให้บริการ
และเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับไคลเอนต์ที่จะใช้ร่วมกันและการติดต่อสื่อสารกับคนอื่นๆ
การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Data Interchange : EDI)
การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
หรือ EDI เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยผ่านเครือข่าย
เช่น โทรศัพท์ สายเคเบิ้ล ดาวเทียม เป็นต้น
แทนการส่งเอกสารโดยพนักงานส่งสารหรือไปรษณีย์ ระบบ EDI
จะต้องใช้รูปแบบของเอกสสารที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้หน่วยงานทางธุรกิจหรือองค์กรต่างๆสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับมาตรฐานของ EDI ในประเทศไทยถูกกำหนดโดยกรมศุลกากร
ซึ่งเป็นหน่วยงานแรกที่นำระบบนี้ขึ้นมาใช้งาน คือ มาตรฐาน EDIFACT
(Electronic Data Interchange for Administration, Commerce and Transport) ตัวอย่างของเอกสารที่นำมาใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยระบบ EDI เช่น ใบสั่งชื้อสินค้า ใบเสนิราคา ใบกำกับสินค้า ใบเสร็จรับเงิน
ใบกำกับภาษี
ประโยชน์ของการใช้ระบบ
EDI
1.
ลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดส่งเอกสาร
2.
ลดเวลาทำงานในการป้อนข้อมูล
ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้อง และลดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลที่ซ้ำซ้อน
3.
เพิ่มความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร
4.
ลดค่าใช่จ่ายและภาระงานด้านเอกสาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น